คณะพยาบาลศาสตร์ สถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์ (พีไอเอ็ม) จัดพิธีปัจฉิมนิเทศมอบแถบหมวกและเข็มแก่ผู้สำเร็จการศึกษาหลักสูตรพยาบาลศาสตรบัณฑิต 2.5 ปีสำหรับผู้สำเร็จปริญญาตรีสาขาอื่น รุ่นที่1 จำนวน 23 คน ประจำปีการศึกษา 2567 โดยมี ศาสตราจารย์พิเศษ เกียรติคุณ ดร.นพ.กระแส ชนะวงศ์ นายกสภาสถาบัน รองศาสตราจารย์ ดร.สมภพ มานะรังสรรค์ อธิการบดี คุณสยาม โชคสว่างวงศ์ รองอธิการบดีอาวุโส สายบริหาร คุณวิเชียร จึงวิโรจน์ กรรมการผู้จัดการ (ร่วม) บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) ศาสตราจารย์ (เชี่ยวชาญพิเศษ) ดร.วิภาดา คุณาวิกติกุล รองอธิการบดีส่วนวิทยาศาสตร์สุขภาพ รองศาสตราจารย์ ดร.สุจิตรา เหลืองอมรเลิศ นายกสภาการพยาบาล เป็นเกียรติในพิธี พร้อมด้วย คุณสุพจน์ มหพันธ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ซีพี เมดิคัล เซ็นเตอร์ จำกัด (CPMC) คุณลัคณา สฤษดิ์ไพศาล หัวหน้าฝ่ายการพยาบาล โรงพยาบาลพระปกเกล้า จ.จันทบุรี และผู้บริหารสถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์ และผู้บริหารคณะพยาบาลศาสตร์ คณาจารย์ ผู้บริหารจากแหล่งฝึกปฏิบัติจากโรงพยาบาลเครือข่ายพันธมิตรภาครัฐและเอกชน บุคลากร ผู้ปกครอง ร่วมแสดงความยินดี เมื่อวันที่ 26 กันยายน 2567ณ สถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์ ถนนแจ้งวัฒนะ รวมกว่า 250 คน
พิธีมอบแถบหมวกและเข็มพยาบาลวิชาชีพคือพิธีการสำคัญ เป็นสัญลักษณ์ย้ำเตือนให้ผู้สำเร็จการศึกษาตระหนักถึงความรับผิดชอบของตนเอง ต่อวิชาชีพ และสังคม โดยหมวกสื่อถึงภาระความรับผิดชอบของผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ และแถบหมวกเป็นเครื่องหมายแสดงถึงการก้าวเข้าสู่วิชาชีพการพยาบาล โดยผู้สำเร็จการศึกษาจะมีทั้งความรู้คู่คุณธรรม มีความรับผิดชอบสูง เสียสละเพื่อส่วนรวม ปฏิบัติหน้าที่เพื่อประโยชน์ของผู้ใช้บริการโดยยึดหลักจรรยาบรรณวิชาชีพ
ศาสตราจารย์พิเศษ เกียรติคุณ ดร.นพ.กระแส ชนะวงศ์ กล่าวว่า “พีไอเอ็มมีความภาคภูมิใจอย่างยิ่งและยินดีกับผู้สำเร็จการศึกษาทุกท่านในวันนี้ ทุกคนคือผู้ที่จบการศึกษาระดับปริญญาตรีมาแล้วและได้เพิ่มเติมวิชาชีพการพยาบาล จึงทำให้มีความเป็นผู้ใหญ่ที่สมบูรณ์ยิ่งขึ้น การเป็นพยาบาลที่ดีนั้นต้องรู้จักคำว่า อ่อนน้อมถอมตน และมีภาวะผู้นำที่ดี ซึ่งผู้สำเร็จการศึกษาพยาบาลศาสตร์พีไอเอ็มรุ่นที่ 1 นี้ จะแสดงให้เห็นถึงคุณสมบัติเหล่านี้ ทั้งนี้ขอให้หลักคิดสำหรับการจะทำอะไรนั้นให้คิดถึงประโยชน์ส่วนรวมเป็นอันดับต้น และเรื่องส่วนตนเป็นอันดับรอง รวมถึงความเป็นผู้นำที่ดีนั้นต้องรู้จักชื่นชมผู้อื่น ชื่นชมในงานที่ทำ และเมื่ออยู่ที่ใดต้องทำสิ่งมีประโยชน์อยู่เสมอ พร้อมทั้งอวยพรให้ทุกคนประสบความสำเร็จ นำวิชาความรู้ไปใช้กับผู้รับบริการ และนำชื่อเสียงมาสู่พีไอเอ็มต่อไป”
ทางด้าน รองศาสตราจารย์ ดร.สมภพ มานะรังสรรค์ กล่าวว่า “วันนี้ถือเป็นเกียรติประวัติของพีไอเอ็มที่มีบัณฑิตพยาบาลรุ่นแรก เราให้ความสำคัญกับการเป็นพยาบาลที่ดีซึ่งประกอบด้วย “9มี” คือ มีความรักความชอบในอาชีพของตน มีความรับผิดชอบ มีความมุ่งมั่นอุตสาหะ มีความมุ่งมั่น มีเป้าหมาย มีวิสัยทัศน์ มีความคิดเชิงวิพากษ์คิดนอกกรอบ มีความคิดเชิงสร้างสรรค์ มีความสามารถในการใช้นวัตกรรมสมัยใหม่ มีคุณธรรมจริยธรรม และมีภาวะผู้นำ อย่างไรก็ตามการบริหารจัดการคำว่า “มี” ได้นั้นต้องฉีด VACCINE ให้กับตัวเองทุกวัน หมายถึง V คือ Visionary มีวิสัยทัศน์ A คือ Attentive ความมุ่งมั่นตั้งใจ C คือ Critical thinking ความคิดอย่างมีเหตุมีผล อีก C คือ Creative thinking ความคิดเชิงสร้างสรรค์ I คือ Innovation สามารถใช้นวัตกรรมได้ N คือ Networking มีเครือข่ายเกี่ยวกับงานที่ทำ และสุดท้าย E คือ Empathy มีความเข้าอกเข้าใจผู้อื่น จึงขอให้ทุกคนฉีดวัคซีนนี้ในทุกๆ วัน เพื่อเป็นเข็มทิศในการทำงาน”
ขณะที่ คุณสุพจน์ มหพันธ์ ได้กล่าวว่า “ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะก่อตั้งคณะพยาบาลศาสตร์ แต่ด้วยเจตนารมณ์ของเครือเจริญโภคภัณฑ์ และพีไอเอ็มเห็นความสำคัญของการสร้างบุคลากรทางสาธารณสุข ทุกอย่างจึงเกิดขึ้นจริงได้ ขอขอบคุณเครือเจริญโภคภัณฑ์ พีไอเอ็ม อาจารย์ ผู้ปกครอง และผู้สำเร็จการศึกษาทุกคน วันนี้เป็นอีกหนึ่งก้าวของความสำเร็จและยังเป็นจุดเริ่มต้นของอนาคตจึงขอฝากไว้ 3 มุมมองคือ 1.ยึดมั่นในคุณธรรม 2.ทำปัจจุบันให้เป็นต้นเหตุที่ดีของผลในอนาคต 3.มีจิตสำนึกในบทบาทหน้าที่ต่อตัวเอง สังคม ประเทศชาติ เพื่อเป็นแนวทางในการใช้ชีวิต ซึ่งพยาบาลเป็นวิชาชีพที่ท้าทายต้องเจอกับการตัดสินใจ ความถูกต้อง และความไม่แน่นอนในชีวิต เมื่อใดที่เจอปัญหาหรือเรื่องยากๆ อยากให้พึงระลึกถึง 3 เรื่องที่ได้กล่าวไว้เสมอ สุดท้ายนี้ในฐานะผู้สนับสนุนทุนการศึกษาอยากเห็นทุกคนมีอนาคตที่สดใส และสร้างประโยชน์ให้กับประเทศชาติต่อไป”
รองศาสตราจารย์ ดร.สุจิตรา เหลืองอมรเลิศ กล่าวว่า “ในนามสภาการพยาบาลขอแสดงความยินดีกับผู้สำเร็จการศึกษารุ่นที่1 ทุกคน ขอชื่นชมที่สร้างผลงาน มีผลการเรียนระดับดีมาก เราจะได้พยาบาลที่มีความรู้ ความสามารถ มีศักยภาพด้านการพยาบาล การบริหารจัดการ และใช้นวัตกรรมเป็น ปัจจุบันความต้องการของประชาชนเปลี่ยนแปลงไปมากจึงต้องการพยาบาลยุคใหม่มาทำงาน การเป็นพยาบาลวิชาชีพที่มีคุณค่าต้องมีจิตสำนึก 5 ประการได้แก่ 1.ความรอบรู้ศาสตร์พยาบาล ศาสตร์สุขภาพ ในยุคแห่งการเปลี่ยนแปลงนี้ความรู้อาจจะหาไม่ได้จากตำรา แต่หาได้จากการทำงานกับผู้ป่วย 2.มีคุณธรรมจริยธรรม เชื่อมั่นว่าทุกคนถูกหล่อหลอมเรื่องนี้มาอย่างเต็มที่แล้ว 3.การวิเคราะห์ สังเคราะห์ มองทุกอย่างให้เป็นเรื่องที่นำมาพัฒนาต่อยอดได้ 4.การสร้างนวัตกรรม 5.การเคารพนับถือทุกคนที่เกี่ยวข้อง เช่น ผู้ป่วยหรือเพื่อนร่วมงาน”
คุณลัคณา สฤษดิ์ไพศาล ตัวแทนจากสถานที่ฝึกปฏิบัติงานกล่าวว่า “ในนามของตัวแทนผู้อำนวยการโรงพยาบาลพระปกเกล้า จันทบุรี ซึ่งเป็นสถานที่ฝึกงานของรุ่น1 ขอแสดงความยินดีกับความสำเร็จของทุกคน วันนี้เป็นที่ประจักษ์แล้วว่าทุกคนมีความรู้ มีทักษะ ความอดทน ความรับผิดชอบ เข้มแข็งพร้อมก้าวไปเป็นพยายาบาลวิชาชีพที่จะปฏิบัติงานอย่างเต็มความสามารถ และอยากให้หมั่นศึกษาหาความรู้ เพราะวิวัฒนาการสมัยใหม่นำหน้าเราหนึ่งก้าวเสมอ และสิ่งสำคัญคือ ฝึกการดูแลแบบ Head Heart Hand แก่ผู้ใช้บริการเพื่อให้เขามีสุขภาพดี วันนี้ขอแสดงความยินดีกับผู้ปกครองทุกท่าน บุตรหลานของท่านมีความสำเร็จไปอีกขั้น หวังว่าทุกคนจะก้าวต่อไปด้วยความมุ่งมั่นและมีความศรัทธาในวิชาชีพ
ภายในพิธีได้รับเกียรติจากแหล่งฝึกปฏิบัติงาน โรงพยาบาลเครือข่ายพันธมิตรภาครัฐและเอกชน เข้าร่วมแสดงความยินดี โรงพยาบาลพระปกเกล้า โรงพยาบาลสมเด็จพระบรมราชเทวี ณ ศรีราชา โรงพยาบาลวิภาวดี โรงพยาบาลผู้สูงอายุและศูนย์เวชศาสตร์ฟื้นฟู (Chersery Home International Hospital) โรงพยาบาลสมิติเวช ศรีนครินทร์ โรงพยาบาลกรุงเทพระยอง โรงพยาบาลกรุงเทพปลวกแดง โรงพยาบาลชลประทาน โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ โรงพยาบาลบีเอ็นเอช บริษัทมิตรไมตรีการแพทย์ จำกัด โรงพยาบาลอินทรารัตน์ โรงพยาบาลแพทย์รังสิต และกลุ่มโรงพยาบาลซีจีเอช
สถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์ มีเป้าหมายสร้างพยาบาลผ่านรูปแบบ Work-based Education ด้วยการผสมผสานองค์ความรู้แห่งศาสตร์วิชา การพยาบาลและการผดุงครรภ์ บูรณาการกับเทคโนโลยีดิจิทัลและสารสนเทศ พร้อมกับองค์ความรู้จากการปฏิบัติ เพื่อให้ได้พยาบาลนักจัดการที่มีคุณสมบัติครบถ้วน มีสมรรถนะการทำงานตามวิชาชีพในอนาคตอย่างทรงคุณค่า ทั้งความรู้ด้านวิชาการ ศิลปะแห่งการจัดการในงานบริการ พร้อมผ่านการฝึกปฏิบัติอย่างมืออาชีพจากแหล่งฝึกปฏิบัติทุกระดับ อาทิ ชุมชน สถานบริการสุขภาพระดับต่างๆ รวมถึงผู้รับริการสุขภาพในทุกมิติซึ่งเปรียบเสมือนตำราที่มีชีวิต มีความรับผิดชอบต่อตนเอง วิชาชีพและสังคม ภายใต้หลักสูตรคุณภาพที่ได้รับมาตรฐานจากกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) และสภาการพยาบาล อันจะเป็นรากฐานมั่นคงสร้างความพร้อมสำหรับการเดินบนเส้นทางสายพยาบาลวิชาชีพต่อไป